ในขณะที่หลอดเลือดแดงเป็นตัวส่งเลือดไปสู่เนื้อเยื่อต่างๆ และหลอดเลือดดำเป็นตัวระบายของเสียและคาร์บอนไดออกไซด์ กลับ ยังมีหลอดน้ำเหลืองช่วยระบายอีกชุดหนึ่ง เรียกว่า ระบบ น้ำเหลือง สารที่ดูดซึม เรียกว่า น้ำเหลือง (lymph) ซึ่งไม่มีสี ยกเว้นหลอดน้ำเหลืองจากลำไส้อาจปรากฏคล้ายน้ำนมในระหว่าง ที่มีการย่อยอาหารประเภทไขมัน
ลักษณะที่สำคัญของระบบน้ำเหลืองสองประการคือ
๑. ทางเดินของหลอดน้ำเหลืองจะมีปุ่มน้ำเหลือง (lymph node) อยู่เป็นระยะๆ เพื่อรับน้ำเหลือง
๒. การระบายของน้ำเหลืองมีขอบเขตจำกัด เพราะ ไม่มีหลอดน้ำเหลืองจากระบบประสาทส่วนกลาง กระดูกอ่อน และอาจไม่มีจากกล้ามเนื้อและไขกระดูก
แยกได้เป็น ๒ พวก คือ พวกตื้นและพวกลึก
หลอดน้ำเหลืองพวกตื้น ของแต่ละข้างของร่างกาย จะมี ๓ บริเวณใหญ่ๆ คือ
๑. จากผิวหนังของขา บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก ส่วนล่างของร่างกาย ต่ำกว่าระดับสะดือ ไปสู่ปุ่มน้ำเหลือง บริเวณขาหนีบ
๒. จากผิวหนังของแขน ลำตัวเหนือระดับสะดือ จนถึงระดับกระดูกไหปลาร้าทางด้านหน้า และถึงกึ่งกลางทาง ด้านหลังของคน ไปสู่ปุ่มน้ำเหลืองบริเวณรักแร้
๓. จากหนังศีรษะ หน้า และส่วนที่เหลือของคอ ไปสู่ปุ่มน้ำเหลืองบริเวณคอ
หลอดน้ำเหลืองพวกลึก ระบายน้ำเหลืองส่วนที่ ลึกกว่าเยื่อใต้หนัง มักจะทอดคู่กับหลอดเลือดบริเวณนั้นๆ หลอด น้ำเหลืองจากอวัยวะภายในมักระบายไปสู่ปุ่มน้ำเหลืองที่อยู่ ใกล้เคียง
เป็นก้อนหรือเป็นเม็ด ขนาดแตกต่างกัน ได้มากตั้งแต่ ๑-๒๕ มิลลิเมตร สีชมพูแกมเทา โดยมากอยู่ เป็นกลุ่ม แบ่งได้เป็นพวกตื้น และพวกลึก
ปุ่มน้ำเหลืองพวกตื้น อยู่ในชั้นเยื่อใต้หนัง พบ ค่อนข้างน้อย รับน้ำเหลืองพวกตื้นจากแขน ขา และลำตัว พบได้ ที่ขาหนีบ รักแร้ และคอ
ปุ่มน้ำเหลืองพวกลึก พบมากที่บริเวณส่วนลึกของ คอ และลำตัว รับหลอดน้ำเหลืองพวกลึกจากอวัยวะภายในต่างๆ
ปุ่มน้ำเหลือง ทำหน้าที่เป็นเครื่องกรองสิ่งแปลกปลอมและ เชื้อจุลินทรีย์ที่ติดมาในหลอดน้ำเหลือง และยังเป็นแหล่งสร้างเม็ด เลือดขาวลิมโฟไซต์ด้วย ในทางเดินของหลอดน้ำเหลืองจาก เนื้อเยื่อไปสู่หลอดเลือด จะต้องผ่านปุ่มน้ำเหลืองอย่างน้อย ๑ ปุ่ม แต่โดยทั่วๆ ไปมากกว่า ๑ ปุ่ม
เป็นอวัยวะนุ่มและเคลื่อนไปมาได้ มีสีม่วง อยู่ในส่วนบน ทางซ้ายของช่องท้อง ขนาดเปลี่ยนแปลงได้มากในขณะมีชีวิต ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนเลือดที่อยู่ภายในม้าม โดยทั่วไปม้ามยาว ๑๒.๕ เซนติเมตร กว้าง ๗.๕ เซนติเมตร หนา ๓.๕ เซนติเมตร หนัก ๑๕๐ กรัม เมื่อม้ามขยายออก จะทำหน้าที่เป็นคลังเก็บเลือด ซึ่งจะ ปล่อยเลือดกลับสู่กระแสเลือดได้เมื่อร่างกายต้องการ นอกจากนั้น ภายในมีเซลล์พิเศษทำหน้าที่ทำลายเม็ดเลือดแดงที่แก่แล้ว และ เชื้อโรค และยังสร้างเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ (lymphocyte) สร้างภูมิคุ้มกันด้วย